บริษัท ฟาเบอร์ ประเทศไทย จำกัดตั้งอยู่ในจังหวัดตรัง ประเทศไทย เชี่ยวชาญด้านการบำบัดของเสียโดยใช้วิธี MBT (การบำบัดทางชีวภาพด้วยกลไก) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ บริษัทมีชื่อเสียงในด้านความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการแก้ปัญหาการจัดการขยะอย่างยั่งยืนและแนวทางปฏิบัติที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

ภายในกรอบการทำงาน MBT การประมวลผลของเสียจะเผยออกมาในขั้นตอนที่แตกต่างกัน ขั้นแรก ขยะที่เข้ามาผ่านการคัดแยกเชิงกลเพื่อแยกวัสดุรีไซเคิล เช่น โลหะ พลาสติก และกระดาษ ต่อจากนั้น ของเสียที่ตกค้างจะดำเนินการผ่านการบำบัดทางชีวภาพ ซึ่งครอบคลุมถึงวิธีการทำปุ๋ยหมักหรือการย่อยแบบแอโรบิก

การทำปุ๋ยหมักทำให้เกิดการสลายตัวของขยะอินทรีย์โดยจุลินทรีย์ในสภาพแวดล้อมที่อุดมด้วยออกซิเจน ทำให้เกิดปุ๋ยหมัก ซึ่งเป็นสารปรับปรุงดินที่มีสารอาหารหนาแน่น ในทางกลับกัน การย่อยแบบใช้ออกซิเจนใช้จุลินทรีย์เมื่อมีออกซิเจนเพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์ให้เป็นสารประกอบที่ง่ายกว่า

ด้วยการผสมผสานระหว่างการคัดแยกเชิงกลและการบำบัดทางชีวภาพ ระบบ MBT สามารถลดปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบอย่างมีประสิทธิภาพ กอบกู้ทรัพยากรอันมีค่า และสร้างปุ๋ยหมักสำหรับการใช้งานทางการเกษตรหรือการจัดสวน แนวทางแบบองค์รวมนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความทุ่มเทอย่างแน่วแน่ของ Faber Technologies Co., Ltd ในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน

การจัดการขยะในประเทศไทยมักใช้วิธีการฝังกลบเป็นวิธีหลักซึ่งปัญหาต่างๆ เช่น ความยาก ที่จะหาพื้นที่สำหรับการฝังกลบและ การต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ที่เลือกเป็นบริเวณฝังกลบ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับกลิ่นเหม็นและน้ำขยะในที่ฝังกลบ ซึ่งเป็นน้ำเสียที่มีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมสำหรับการบำบัด ทำให้การบำบัดน้ำเสียของขยะโดยวิธีการฝังกลบมีความสกปรกและมีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แนวทางใหม่ในการจัดการขยะที่ได้รับการนำมาใช้ในหลายประเทศในยุโรป เช่น ออสเตรีย เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และ เนเธอร์แลนด์ คือ การใช้กระบวนการบำบัดขยะแบบเชิงกล-ชีวภาพ (Mechanical Biological Treatment : MBT) ก่อนนำไปฝั่งกลบ โดยมีจุดประสงค์เพื่อบำบัดขยะและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการฝังกลบ รวมถึงสามารถคัดแยกโลหะกลับมาใช้ใหม่และผลิตเป็นวัสดุเชื้อเพลิงพลังงาน (RDF : Refuse Derived Fuel) อีกด้วย

การนำเทคโนโลยี MBT มาใช่้ในการจัดการขยะนั้นมีีข้อได้เปรียบมาก เนื่องจากสามารถลดปัญหา การฝังกลบขยะได้ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และยังสามารถนำขยะกลับมาใช่้ใหม่ได้อีกด้วย ซึ่งการนำเทคโนโลยีนี้ มาใช่้ในการจัดการขยะในประเทศไทยอาจเป็นทางเลือกที่ีดีในการลดปัญหาการจัดการขยะอย่างมีีประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะในขณะเดียวกัน

การจัดการขยะโดยใช่้วิธีีการบำบัดขยะโดยเชิงกล-ชีวภาพตามกระบวนการของ FABER AMBRA® มีีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:

  1. การบำบัดทางกลโดยการคัดแยกและการโม่ผสม: ขยะมูลฝอยรวมจะถูกคัดแยก และขยะที่ีมี ขนาดใหญ่จะถูกนำมาใช่้ใหม่ ขยะอันตรายจะถูกย่อยและคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยการโม่ผสมเพื่อให้ง่าย ต่อกระบวนการย่อยสลาย
  2. การบำบัดทางชีวภาพ: ขยะที่ผ่านการคัดแยกและการโม่ผสม จะถูกนำไปตั้งกองหมักไว้บน แผ่นไม้พาเลท และมีระบบระบายอากาศเพื่อเพิ่มการถ่ายเทและระบายอากาศภายในกองหมัก โดยการระบายอากาศจะช่วยในการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุอย่างมีีประสิทธิภาพ
  3. การรีไซเคิลและการใช้ประโยชน์จากขยะ: หลังจากการบำบัดเสร็จสิ้น ขยะที่ย่อยและคัดแยกแล้วจะถูกนำไปใช่้เป็น วัสดุเชื้อเพลิงพลังงาน (RDF) หรือใช่้เป็นวัสดุปกคลุมกองหมักขยะ โดยมีีการควบคุมคุณภาพของกระบวนการเพื่อรรักษา มาตรฐานของการกำจัดขยะเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจมีต่อสภาพแวดล้อม

โดยกระบวนการนี้มีความประสิทธิภาพในการจัดการขยะ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระบบที่สามารถใช้งานได้ในระยะยาว โดยมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ในกระบวนการทั้งหมด

การใช้เทคโนโลยี Mechanical Biological Treatment หรือ MBT ในการจัดการขยะ

มีข้อดีหลายประการดังนี้:

  1. ลดปัญหาการฝังกลบ: MBT ช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องฝังกลบลงไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบำบัดขยะก่อนนำไปฝังกลบจะช่วยลดการใช้พื้นที่สำหรับบ่อฝังกลบขยะ และลดการก่อให้เกิดมลพิษ ในบริเวณฝังกลบ
  2. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: MBT ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสารมลพิษจากการ ฝังกลบขยะ โดยการบำบัดขยะก่อนนำไปฝังกลบช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสารมลพิษออกมาในบริเวณฝังกลบขยะ
  3. การนำกลับใช้ประโยชน์ของวัสดุ: MBT ช่วยในการคัดแยกวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ใด้ เช่น โลหะ และวัสดุอินทรีย์ ทำให้ลดปริมาณขยะที่จะต้องฝังกลบและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะ
  4. การผลิตพลังงาน: หลังจากการบำบัด MBT ขยะที่ได้แล้ว สามารถนำไปผลิตเป็นพลังงานได้ เช่น ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงพลังงาน (RDF: Refuse Derived Fuel) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่สามารถนำไปใช้ในการผลิตไฟฟ้าหรือความร้อนได้
  5. ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ: การใช้ MBT ช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนในบริเวณ ที่มีการฝังกลบขยะ โดยลดการสัมผัสกับสารพิษและก๊าซที่เกิดจากการฝังกลบขยะ
  6. การคัดแยกวัสดุ: MBT ช่วยในการคัดแยกวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งช่วยลดการใช้วัสดุใหม่และลดการเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติ

สรุปได้ว่า MBT เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการขยะ โดยช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะ และในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน และสร้างพลังงานทดแทนได้อีกด้วย

Faber Technology
28/11 ถนนห้วยยอด
ตรัง
ประเทศไทย
92000
Talk to us
Copyright © 2568 Faber Technology. All rights reserved.